ปฏิทินของผม

รูปของผมอัลบั้ม1

รูปของผมอัลบั้ม2

รูของผมอัลบั้ม3

รูปใหม่

ขำๆๆ

วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วันวาเลนไทน์

ผมเป็นอีกคนหนึ่งที่เหมือนคนทั่วไป “กุหลาบ ช็อคโกแลต คำบอก รัก"

สามสิ่งนี้ต้องเวียนเข้ามาหาชีวิตผม เพื่อให้คนคนหนึ่งใน ทุก ๆ ปีของวันนี้

ก่อนวันที่ 14 กุมภาพันธ์

ผมเดินออกจากบ้านในมือมีผ้าเช็ดหน้าสีชมพูที่ต้องการเอาให้แฟนของผม

เธอเป็นหญิงสวยมาก เป็นดาวคณะของมหาลัยของเรา ก่อนผมจะออกไปพบเธอ

เธอโทรมาหาผม ผมจึงวางผ้าเช็ดหน้าที่ผมบรรจงพับไว้บนโต๊ะ หลังจากการพร่ำ

บอกรักกันด้วยถ้อยคำหวานหู เป็นเวลานานทีเดียวผมปรี่ออกจากบ้านไปหาเธอ

โดยไม่ลืม ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น แต่แล้ว!! ผมก็เห็นพ่อของผมถือมันออกมาในผ้าผืนนั้น

มีรอยเลือด "พ่อ ทำอะไรหนะ" ผมโพล่งถามด้วยความโมโห พ่อหน้าซีดทันที

" X เหมียวหนะ มันโดนกัด พ่อเลยเอาผ้าไปเช็ดเลือด"

"พ่อรู้ไหม ผมกำลังจะเอาไปให้แฟน"

พ่อเงียบ . . . ผมเกลียดจริงๆ เวลาพ่อ เงียบเมื่อจนกับปัญหา ความโหโห

สั่งผมให้ทำได้ แม้กระทั่งจะตบหน้าพ่อ พ่อเบือนหน้า

"พ่อขอโทษ มานี่ . . . " พ่อยื่นมือมารับผ้าเช็ดหน้า

"พ่อจะเอาไปซักให้เอง” ผมงอนพ่อถึงกับไม่ยอมคุยกับพ่อเป็นเวลานานพอควร

ไม่ยอมลงจากบ้าน เป็นเวลาเกือบทั้งสองวันที่ผมไม่เจอหน้าใครหมกตัวอยู่กับห้อง

มีเพียงแม่เท่านั้น ที่คอยส่งข้าวให้ผม ยามเมื่อผมมองตาแม่ครั้งใดทุกครั้ง

ดวงตาแม่จะแดงปรี่ ด้วยน้ำตา ผมเริ่มรู้สึกว่า บางทีผมอาจจะทำเกินไป. . .

14 กุมภาพันธ์ ตั้งแต่ครั้งที่ผมเห็นแม่เสียใจ ผมก็รู้สึกว่าผมทำอะไรผิดไปหรือเปล่า

ผมยอมออก มาจากห้อง ผมไม่เห็นพ่อ เดินออกมาที่บริเวณลานซักผ้า กาละมังยังมี

ผ้าที่ยังไม่ซัก หลายผืน ข้างๆ มีกองเลือดอยู่และที่ราวตากผ้ามี ผ้าเช็ดหน้าของผม

ถึงจะล้างรอยเลือด ไม่หมด ก็ยังดีที่พ่อยังห่วงใยผม ยังแคร์ผมอยู่

"พ่อ ผมอยากขอโทษครับ" พอผมหันหน้าจะกลับเข้าบ้านก็พบกับแม่

แม่ร้องไห้มาแต่ไกล แม่วิ่งมากอดผม "พ่อเสียแล้วนะ"

ผมอึ้ง!! แม่ลำดับเหตุการณ์ และทำให้ผมทราบว่า พ่อป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ

ติดเชื้อรอยเลือดที่เห็นนั้นคือเลือดที่พ่อจามออกมา พ่อมองไม่เห็น

"พ่อกำชับแม่มาตอนที่ลูกโกรธว่า อย่าบอกลูกเด็ดขาดว่าพ่อป่วย "

"ทำไมล่ะ ครับ"

"พ่อกลัวเราจะเสียใจ แล้วไม่ได้ออกไปเที่ยวกับแฟน"

ผมอึ้งเป็นครั้งที่สอง! "พ่อบอกแม่ด้วยว่า ถ้าพ่อเสียวันนี้ อย่าเพิ่งบอกลูก

ให้ลูกไปเที่ยวกับแฟนก่อน พ่อไม่อยากให้ลูกเป็นทุกข์ พลาดโอกาสอย่างนี้

เพราะพ่อคนเดียว พ่อบอกด้วยว่าพ่อซักผ้าเช็ดหน้าให้แล้ว มันไม่สะอาดหรอก

แต่พ่อบอกว่าพ่อของลูกทำดีที่สุดแล้ว" ผมกอดแม่ร้องไห้วันนี้จะเป็น

วันวาเลนไทน์ที่อยู่ในความทรงจำตลอดไป "พ่อครับ ผมขอโทษ .

วันปีใหม่


Dino-Lite กล้องจุลทรรศน์พกพา รางวัลยอดเยี่ยมโลก


ตามจารีตประเพณีของไทยแต่โบราณ ถือเอาวันแรมหนึ่งค่ำ เดือนอ้าย (เดือนหนึ่ง) เป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งสอดคล้องกับคติทางพระพุทธศาสนา ที่เริ่มฤดูหนาว (เหมันต์) เป็นจุดเริ่มต้นของปีต่อมา จารีตดังกล่าวได้แปรเปลี่ยนไปตามคติของพราหมณ์ ซึ่งใช้วันขึ้นหนึ่งค่ำเดือนห้าเป็นวันขึ้นปีใหม่ ที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดเป็นการนับวัน เดือน ปี แบบจันทรคติ คือการใช้การโคจรของดวงจันทร์เป็นเกณฑ์
ต่อมาเมื่อทางราชการเปลี่ยนมาใช้แบบสุริยคติ คือใช้ดวงอาทิตย์เป็นเกณฑ์ จึงได้ถือเอา วันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ เริ่มใช้เมื่อปี พ.ศ. 2432
วันขึ้นปีใหม่ของนานาอารยประเทศ ใช้วันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งเป็นการนับตามสุริยคติ เมื่อประเทศไทยซึ่งเดิมใช้วันแรมหนึ่งค่ำ เดือนอ้าย ของไทย เป็นวันขึ้นปีใหม่ นับว่าเป็นห้วงระยะเวลาใกล้เคียง กับวันที่ 1 มกราคม จึงเห็นว่าการที่ใช้วันที่ 1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยเป็นการเหมาะสมดังนี้
ตามทางดาราศาสตร์ การกำหนดอาศัยหลัก 2 ประการ คือ ใช้หลักวันที่ดวงอาทิตย์ อยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรมากที่สุด ซึ่งจะตกประะมาณ วันที่ 22 ธันวาคม อีกประการหนึ่งใช้หลักวันที่ดวงอาทิตย์ อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตรมากที่สุด ซึ่งจะตกประมาณวันที่ 20 มีนาคม ประเทศไทยเคยใช้หลักประการแรกมาก่อน คือใช้เดือนอ้าย แรมหนึ่งค่ำ ซึ่งใกล้เคียงกับวันที่ 22 ธันวาคม
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ได้ทรงอธิบายไว้เป็นใจความว่า ฤดูหนาวเป็นเวลาที่พ้นจากมืดฝน สว่างขึ้นเหมือนเวลาเช้า โบราณจึงถือเป็นต้นปี ฤดูร้อนเป็นเวลาสว่างเต็มที่เหมือนเวลากลางวัน โบราณจึงถือเป็นกลางปี ส่วนฤดูฝนเป็นห้วงเวลาที่มืดครื้ม เหมือนกลางคืน โบราณจึงถือเป็นปลายปี จึงได้เริ่มเดือนหนึ่งที่เดือนอ้าย และไทยโบราณถือการเริ่มข้างแรมเป็นต้นเดือน
มีผู้ค้นพบว่า คติที่นับวันใดวันหนึ่งในห้วงระยะเวลาระหว่างวันที่ 21 เดือนธันวาคม ถึงวันที่ 1 เดือนมกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่นี้ เป็นคติเก่าแก่ของชนชาติที่อยู่ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ หรือสุวรรณภูมิ ด้วยเหตุผลที่พออธิบายได้ว่าในระยะเวลาดังกล่าวนี้ เป็นเวลาที่แลเห็นดวงอาทิตย์มีขนาดโตที่สุด และเป็นเวลาที่อากาศเริ่มเย็นสบาย หลังจากที่หมดฤดูฝนแล้ว ประเทศไทยเราอยู่ในย่านกลางของพื้นที่ดังกล่าว จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ชาติไทยเราได้มีวันขึ้นปีใหม่ตามคติดังกล่าวมาแต่โบราณกาล
จากการตรวจสอบในห้วงระยะเวลา 30 ปี จากปี พ.ศ. 2453 ถึงปี พ.ศ. 2483 พบว่าวันแรมหนึ่งค่ำ เดือนอ้าย เมื่อเทียบกับวันทางสุริยคติแล้วจะอยู่ในเดือนธันวาคม และส่วนใหญ่จะอยู่ห่างจากวันที่ 1 มกราคม ไม่เกิน 10 วัน ห่างกันมากที่สุด 30 วัน และห่างน้อยที่สุดเพียง 2 วัน เท่านั้น
อินเดียในสมัยโบราณก็ได้เคยใช้วันที่ 1 เดือนมกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่มาแล้ว เรียกว่ามกรสงกรานต์ การที่อินเดียในยุคต่อมาใช้เดือนจิตรมาส หรือเดือนเมษายน เป็นต้นปีนั้น มีที่มาจากฝ่ายเหนือของอินเดีย เพราะในพื้นที่บริเวณดังกล่าว เดือนเมษายนเป็นเดือนที่ลมฟ้าอากาศดีที่สุด มติได้แผ่เข้ามายังชนชาวไทย โดยพราหมณ์นำเข้ามาอิทธิพลของลัทธิพราหมณ์ในครั้งนั้น สูงมากพอจนทำให้ไทยเราหันไปใช้ตามแบบ พราหมณ์ในหลาย ๆ เรื่อง รวมทั้งวันขึ้นปีใหม่ด้วย โดยนับเดือนห้าเป็นต้นปี ทำให้เราต้องขึ้นปีใหม่ 2 ครั้ง คือขึ้นหนึ่งค่ำ เดือนห้า และวันสงกรานต์ ซึ่งจะเลื่อนไปมาในแต่ละปีไม่แน่นอน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ฯ ทรงเห็นความลำบากในกรณีดังกล่าว เมื่อไทยต้องมีการติดต่อกับ ต่างประเทศมากขึ้น ดังนั้น เมื่อปี พ.ศ. 2432 วันขึ้นหนึ่งค่ำ เดือนห้า ไปตรงกับวันที่ 1 เดือนเมษายน พอดี จึงได้มีประกาศบรมราชโองการ ให้ถือวันที่ 1 เดือนเมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทยตั้งแต่นั้นมา
ประเทศไทยได้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่มาเป็นวันที่ 1 เดือนมกราคม เมื่อปี พ.ศ. 2484 ด้วยเหตุผลทั้งมวลที่ได้กล่าวมาแล้ว และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ บรรดานานาประเทศ ได้ใช้วันนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ ทำให้สมประโยชน์แก่ประเทศไทยด้วยประการทั้งปวง
 
ความหมายความหมายของวันขึ้นปีใหม่ ตามพจนานุกรม ฉบับราชตบัณฑิตยสถาน ให้ความหมายของคำว่า " ปี" ไว้ดังนี้ ปี หมายถึง เวลา ชั่วโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครั้งหนึ่งราว 365 วัน : เวลา 12 เดือนตามสุริยคติ

ความเป็นมา
ในอดีต วันขึ้นปีใหม่ของไทยได้มีการเปลี่ยนแปลงมาแล้ว 4 ครั้งคือ ครั้งแรกถือเอาวันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ซึ่ง ตรงกับเดือนมกราคม ครั้งที่ 2 กำหนดให้วันขึ้นปีใหม่ตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ตามคติพราหมณ์ ซึ่งตรงกับเดือนเมษายน

การกำหนดวันขึ้นปีใหม่ใน 2 ครั้งนี้ ถือเอาทางจันทรคติเป็นหลัก ต่อมาได้ถือเอาทางสุริยคติแทน โดยกำหนดให้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ ตั้งแต่ พ.ศ.2432 เป็นต้นมา

อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะตามชนบทยังคงยึดถือเอาวันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่อยู่ ต่อมาเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย ทางราชการเห็นว่าวันขึ้นปีใหม่วันที่ 1 เมษายน ไม่สู้จะมีการรื่นเริงอะไรมากนัก สมควรที่จะฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ จึงได้ประกาศให้มีงานรื่นเริงวันขึ้นปีใหม่ในวันที่ 1 เมษายน 2477 ขึ้นในกรุงเทพฯเป็นครั้งแรก


การจัดงานวันขึ้นปีใหม่ที่ได้เริ่มเมื่อวันที่ 1 เมษายน ได้แพร่หลายออกไปต่างจังหวัดในปีต่อๆ มา และในปี พ.ศ.2479 ก็ได้มีการจัดงานรื่นเริงปีใหม่ทั่วทุกจังหวัด วันขึ้นปีใหม่วันที่ 1 เมษายน ในสมัยนั้นทางราชการเรียกว่า วันตรุษสงกรานต์

ต่อมาได้มีการพิจารณาเปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยคณะรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้น ซึ่งมีหลวงวิจิตรวาทการเป็นประธานกรรมการ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่เป็นวันที่ 1 มกราคม โดยกำหนดให้วันที่ 1 มกราคม 2484 เป็น วันขึ้นปีใหม่เป็นต้นไป

ชีวิตก็คือสื่งที่เราสร้างด้วยตัวเราเอง

   ยังมีช่างไม้สูงอายุคนหนึ่งต้องการจะเกษียณตัวเอง

ก็เลยบอกความต้องการดังกล่าวกับนายจ้าง

เกี่ยวความต้องการที่จะเกษียณและใช้ชีวิตที่หรูหรากับภรรยา

ซึ่งช่างไม้ก็บอกว่าเขาอาจจะเสียดายค่าจ้างที่จะได้รับ

แต่เขาก็ต้องการที่จะเกษียณ

นายจ้างก็บ่นเสียดายที่จะต้องสูญเสียช่างฝีมือดีไป

แต่ก็ได้ขอร้องให้ช่างคนนี้ช่วยสร้างบ้านให้อีกสัก 1 หลัง

ช่างไม้ผู้นั้นก็ตอบตกลง


ครั้นพอบ้านสร้างเสร็จก็พบว่า

มันไม่ใช่งานที่เป็นฝีมือของช่างคนนี้เลยแม้แต่น้อย

งานที่ออกมาก็เป็นงานแค่เปลือกนอก (จอมปลอม)

วัตถุดิบที่ใช้ก็ด้อยคุณภาพ

มันช่างเป็นการจบชีวิตช่างฝีมือดีที่ไม่สวยหรูเลย

และเมื่อนายจ้างสำรวจงานชิ้นนี้ของช่างผู้นี้

นายจ้างก็ได้ยื่นกุญแจให้แล้วบอกกับช่างไม้ว่า


"นี่คือบ้านของคุณ .......ผมขอมอบให้คุณเป็นของขวัญ"

เมื่อช่างไม้ได้ยินเช่นนั้น ถึงกับตกใจและอุทานกับตัวเองว่า

น่าละอายจริงๆ ถ้าเขารู้สักนิดว่ากำลังสร้างบ้านของตัวเองอยู่

เขาก็คงตั้งใจสร้างให้ดีกว่านี้


ข้อคิดสะกิดใจ เช่นเดียวกับพวกเราที่กำลังสร้างชีวิตของตัวเราเอง

ด้วยการสั่งสมสิ่งต่างๆ วันละเล็กวันละน้อย

และบ่อยครั้งที่เราไม่ได้ใช้ความพยายามอย่างที่สุด

ในการสรรค์สร้างชีวิตของตนเอง และเมื่อวันๆ หนึ่งมาถึง

เราก็จะตระหนักว่า

เราต้องใช้ชีวิตอยู่กับทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเป็นผู้สร้างขึ้นมาทั้งหมด

และเมื่อถึงวันนั้น เรามักจะพูดเสมอว่าถ้าเราสามารถกลับไปได้

เราจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ .....

เพราะพวกเราทุกคนก็คือช่างไม้ ในทุกๆ วัน พวกเรากำลังตอกตะปู ปูกระดาน

หรือแม้แต่กำลังเลือกกำแพงให้กับชีวิตตัวเอง ดังคำพูดที่ว่า

"ชีวิตก็คือสิ่งที่เราสร้างด้วยตัวเราเอง"

ทัศนคติ และ ทางเลือกต่างๆ ที่พวกเราได้เลือกกันในวันนี้

ก็เสมือนกับการสร้าง "บ้าน" (ชีวิต)

ที่เราจะต้องอยู่กับมันให้กับตัวเอง .......


ดังนั้นจงสร้างบ้านด้วยความฉลาด และจงจำไว้ว่า

"จงทำงานเหมือนกับว่าเราไม่ต้องการเงินทอง

จงรักราวกับว่าเราไม่เคยเจ็บ

จงเต้น (ร่าเริง) ราวกับว่าไม่มีใครจ้องมองอยู่"

อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมป่าชายเลน

บทความอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
เรื่อง การอนุรักษ์ป่าชายเลน
ป่าชายเลนเป้นป่าไม้ที่มีระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์มากที่สุดและยังเป็นที่อยู่อาศัยของพืช สัตว์น้ำ และเป็นแหล่งประกอบอาชีพของชาวประมงหรือชาวบ้านในแถบระแวกนั้นๆ ป่าชายเลนมีต้นไม้หลากหลายชนิดขึ้นปะปนกันอยู่มากมาย เช่น ป่าจาก ป่าแสม ป่าโกงกาง ป่าลำพู รังกะแท้ โปรง ฝาด เป้ง เรามักพบป่าจากอยู่ริมฝั่งคลองที่เป็นน้ำกร่อยบริเวณปากแม่น้ำ ต้นแสมมีลักษณะเช่นเดียวกับไม้โกงกางขึ้นอยู่บริเวณริมฝั่งลำคลองเรียงตัวกันอย่างหนาแน่นมีรากอากาศโผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมาจะเห็นได้ชัดเมื่อน้ำทะเลลดลง ป่าแสมและป่าโกงกางจะช่วยลดแรงพายุจากทะเลที่พัดเข้าสู่ฝั่งให้ลดความแรงลงได้
ปลากะรัง เป็นปลาทะเลที่อาศัยบริเวณป่าชายเลนเป็นแหล่งหาอาหาร ผสมพันธุ์ วางไข่ และเจริญเติบโตในจำนวนนี้มีปลาเศรษฐกิจที่สำคัญได้แก่ ปลากะรัง ปลากะพง เป็นต้น
การเพาะเลี้ยงปลาในกระชัง แหล่งน้ำในบริเวณป่าชายเลนมีแพลงค์ตอนที่อุดมสมบรูณ์ อันเนื่องมาจากดินตะกอนในบริเวณป่ามีแร่ธาตุมากและเป็นอาหารของสัตว์น้ำเราจึงสามารถเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชังได้ผลดีและเป็นการประหยัดอาหารของสัตว์ด้วย การทำนากุ้ง กุ้งกุลาดำ กุ้งแช่บ๊วย เป็นสัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลนตามธรรมชาติมาก่อน และในบางพื้นที่ของป่าชายเลนที่เสื่อมโทรมจึงสามารถนำมาทำนาเพาะเลี้ยงกุ้งเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่ทำรายได้เข้าประเทศปีละหลายพันล้านบาท กุ้งกุลาดำเป็นสัตว์น้ำที่พบได้บ่อยในบริเวณป่าชายเลนลูกกุ้งได้ใช้บริเวณป่าชายเลนเป็นที่หาอาหารและเจริญเติบโตและอพยพเคลื่อนย้ายที่อยู่ตามการขึ้นลงของน้ำทะเล
ปูทะเล เป็นปูเศรษฐกิจนิยมนำมาบริโภคเป็นอาหารมีถิ่นอาศัยอยู่ตามพื้นโคนไม้ในป่าชายเลนโดยการขุดรูหรือฝั่งตัวอยู่ตามพื้นโคลน แหล่งประมงเหตุที่ป่าชายเลนเป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรสัตว์น้ำจึงก่อให้เกิดอาชีพประมงขึ้นหลายอย่าง เช่น การใช้ลอบดักจับปูและปลา ถิ่นอาศัยของสัตว์ป่าป่าชายเลนเป็นป่าดิบไม่ผลัดใบและเป็นที่อยู่อาศัยของชาวประมงที่มีอาชีพจับสัตว์น้ำบริเวณนั้นมักตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่ตามชายป่าริมน้ำโดยการตัดไม้โกงกางมาทำเล้า นำต้นจากมาทำหลังคาอย่างไรก็ตามป่าชายเลนถูกจัดเป็นป่าสงวนแห่งชาติราษฎรจึงไม่มีสิทธิ์ในที่ดินหรือครอบครองเป็นของตน ป่าที่ถูกรุกราน ประเทศชาติที่เจริญขึ้นทางวัตถุและเทคโนโลยีมากเท่าใดย่อมส่งผลกระทบต่อระบบสมดุลตามธรรมชาติมากเท่านั้น เช่น ป่าชายเลนบริเวณปากแม่น้ำมีถุงพลาสติกและขยะมากมายกองทับถมอยู่ในป่าสภาพป่าตามธรรมชาติจึงเปลี่ยนไปและแน่นอนย่อมส่งผลในอนาคตที่จะตามมาก็คือ ( ไม่มีป่า และไม่มีทรัพยากรสัตว์น้ำจากป่ชายเลนอีก
เราเห็นแล้วใช่ใหมว่ามนุษย์เราทำร้ายสิ่งแวดล้อมมากแค่ไหนด้วยนิสัยที่เห็นแก่ตัวนั้นเองเพราะฉะนั้นเราทุกคนจึงควรช่วยกันอนุรักษ์ป่าชายเลนโดยการไม่ทิ้งขยะ ไม่ตัดไม้ไม่ครอบครองไว้เป็นของตน (ป่าชายเลนเป็นของส่วนรวมไม่ใช่ของส่วนตัว)

น้ำตกทีลอซู

ชมความยิ่งใหญ่และสวยงามที่เหนือคำบรรยายของน้ำตกทีลอซู


ใครจะเชื่อว่าในอำเภอเล็กๆแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศไทยจะมีน้ำตกที่แสนงดงามซ่อนอยู่  เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับที่ 6 ของเอเชียตั้งอยู่ น้ำตกนี้มีชื่อว่า น้ำตกทีลอซู ซึ่งตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ห่างจากที่ทำการเขตฯ 3 กิโลเมตร ทีลอซู เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกดำ มีลักษณะเป็นน้ำตกภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร เกิดจากลำห้วยกล้อท้อ ลำน้ำทั้งสายตกลงสู่หน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลแรงตลอดปี ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ มีความสูงประมาณ 300 เมตร ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์ น้ำตกนี้ซ่อนอยู่ในหลืบผาอันกว้างใหญ่ สายน้ำเกิดจากห้วยกล้อทอซึ่งมีแดนกำเนิดอยู่บนดอยผะวี แล้วไหลลงแม่น้ำแม่กลองที่ ต. แม่ละมุ้ง อ. อุ้มผาง

การดื่มสุรา

การดื่มสุรา
การดื่มสราเป็นปริมากมากจะให้ผลเสียต่อร่างกาย ทำให้เกิดโรคตับแข็ง มะเร็ง ความดันโลหิตสูง เลือดออกทางเดินอาหาร อุบัติเหตุ และยังมีแนวโน้มที่จะทำร้ายตัวเองและผู้อื่น ประเทศไทยได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่บริโภคสุราติดเป็นอันดับ 5 ของโลกผู้ที่จำหน่ายก็รวยติดอันดับโลก การดื่มสุราเป็นปริมาณน้อยจะทำให้อัตราการตายจากโรคต่างๆลดลง
คำแนะนำ
  • เนื่องจากสุราให้พลังงาน และมีคุณค่าทางโภชนาการต่ำ ดังนั้นคนที่ดื่มสุรามักจะขาดสารอาหารและมีน้ำหนักเกิน
  • การรับประทานสุราแต่พอควรโดยกำหนดให้ผู้หญิงดื่มไม่เกินวันละ 1 หน่วยสุรา ส่วนผู้ชายไม่เกิน 2 หน่วยสุรา
    • เบียร์ไม่เกิน 360 ซีซี
    • ไวน์ไม่เกิน 150 ซีซี
    • สุราอื่นไม่เกิน 45 ซีซี
  • คนบางจำพวกไม่ควรดื่มสุราได้แก่
    • ผู้ที่ไม่สามารถควบคุมปริมาณสุราที่จะดื่ม
    • หญิงวัยเจริญพันธุ์
    • คนตั้งครรภ์
    • ผู้ที่เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเอง
    • ผู้ที่รับประทานยา
    • ผู้ที่ทำงานต้องใช้ทักษะหรือสมาธิ เช่นคนขับรถ
  • ผู้ที่มีวัยกลางคนเมื่อสุราตามที่กำหนดจะมีอัตราการเกิดโรคหัวใจ และอัตราการเสียต่ำกว่าผู้ที่ไม่ดื่มสุรา
  • ผู้ที่ดื่มสุราต้องรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ไม่สูบบุหรี่ รักษาน้ำหนักมิให้เกิน
  • วัยรุ่นไม่ได้รับประโยชน์จากการดื่มสุรา
  • ไม่แนะนำให้ดื่มสุราเพื่อเหตุผลทางสุขภาพ

สุขภาพ

แบบทดสอบตาบอดสี ได้ผลดีมากๆ
วันนี้คุณกินข้าวเช้าหรือยัง
10 health tips
ยิ่งนอนดึก ยิ่งเร่งวันตาย
10 วิธีในการคลายความเครียด
ภาวะสมองเสื่อม..กับไข่ไก่
มังคุดทำลายเซลล์มะเร็ง
ข้าวโพด
ระวัง! ตัวร้ายในสำนักงาน
ชา เป็น Healthy drink หรือเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพไปแล้ว
14 วิธีขับถ่ายปัสสาวะ เพื่อสุขภาพที่ดี
ย่างอาหารนาน 2 ชั่วโมงเท่ากับสูบบุหรี่ 200,000 กว่ามวน

"วิตามินซี" เพื่อสุขภาพ
นอนไม่หลับ 33 วิธีนี้ช่วยได้
ตากระตุก ไม่ใช่แค่ ขวาร้าย...ซ้ายดี
คำถามยอดฮิต ...ท้องแล้วมีเซ็กซ์ได้ไหม
อาหาร อันตราย สำหรับ สุนัข
พิษปลาปักเป้า & วิธีสังเกตเนื้อปลาปักเป้า
สัญญาณ 10 ประการที่ร่างกายคุณฟ้องว่าคุณท­านอาหารไม่เหมาะสม
25 Healthy Tips อย่ามองข้ามเรื่องเล็ก (แต่ร้าย)
อาหาร 7 อย่างที่พึงเลี่ยงเมื่อท้องว่าง
อาหารว่าง 10 ชนิดที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุด
นมวัว กับ นมถั่วเหลือง
อาหารต้องห้ามยามเป็นโรค
ตัวอย่างเครื่องปรุงอาหารไทยที่­มีสรรพคุณทางยา
4 อาหารเลวที่ดีต่อร่างกายของคุณ
วิธีแก้ไขปัญหา "หน้ามันเยิ้ม"

ระแวดระวังภัย... โรคจากที่สาธารณะ
ความรู้เรื่องผ้าอนามัย คะ ถ้าใช้ไม่ดีมีสารเคมีเข้าจุดซ่อ­นเร้นได้นะ
อาหารช่วยลด คอเลสเตอรอล
กินอย่างไรไม่กระทบระบบย่อยอาหาร
หน้าเจ็ดหลังเจ็ด
29 สุดยอดอาหาร คงความอ่อนเยาว์
โรคยอดฮิต ความดันโลหิตสูง และ เบาหวาน
เมนูหลับสบาย คลายเครียด
เป็น " สิว "บอกอะไรได้มากกว่าที่คิด
How do you sleep?
ทุเรียน กินอย่างไรไม่อ้วน แถมเป็นยาถ่ายพยาธิชั้นยอด
brain
นาฬิกาชีวิต
วิธีธรรมชาติขจัดปัญหา ' นกเขาไม่ขัน'
เรื่องดีของ กล้วย
อาหารเสริมกับชีวิตปัจจุบัน

10 ปัญหาคาใจเกี่ยวกับการนอน
นอนแบบไหนหลับสบาย
10 เรื่องจริงของความงาม ที่คุณต้องรู้
ความรู้เล็กๆ เกี่ยวกับ แผลในช่องปาก หรือ ร้อนใน
ข้อควรกระจ่างในการบริจาคเลือด
10 เคล็ดเด็ดรักษาเชพช่ว่งปาร์ตี้ช­ุก
ฝึกสมองไบรท์ด้วย 9 เทคนิค
ผิวแห้ง คัน ในหน้าหนาว ตัวเลือก
สารอาหารที่ร่างกายต้องการเมื่อ­มีความเครียด
กินดี อยู่ดี มีประโยชน์ต่อชีวิต
เช็คสุขภาพจิตกันดีกว่า
10 ผลไม้ไทยที่มีสารต้านมะเร็งสูง

10 วิธีหนีร่างกายเสียสมดุล
เพื่อสุขภาพ ตัวเลือก
ผิวแบบไหน...ดูแลอย่างไร
การป้องกันโรคมะเร็ง
วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้หรือปลอม
อาหารง่ายๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังทางเพศ
มารู้จักยาทากันยุงกันดีกว่า
จุดซ่อนเร้น เรื่องลึ้ก! ลึก …แต่ไม่ลับ
ล้างพิษใน 1 วัน..ที่คุณทำเองได้
เตือนห่วงสุขภาพตับ งดกินพาราฯควบกาแฟ
สูตรแก้แฮงค์นำมาฝากสำหรับนักดื่ม
เวลากินยาก่อนหรือหลังอาหารมีคว­ามสำคัญเพียงใด
ใครอยากลด....คลอเรสเตอรอล...บ้­าง ?
มือ..บอกสุขภาพ
10 พฤติกรรมที่ทำให้สมองฝ่อเร็ว